อนิเมะ ชีวิตไม่ต้องเด่นขอแค่เป็นเทพในเงา

อนิเมะ ชีวิตไม่ต้องเด่นขอแค่เป็นเทพในเงาไม่ใช่ตัวเอกหรือบอสตัวสุดท้าย เป็นเพียงตัวตนที่ซ่อนความสามารถและแอบแทรกแซงเหตุการณ์การแสดง วัยรุ่นผู้ปรารถนาจะเป็นเทพในเงามืด วันหนึ่งเขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุและไปเกิดใหม่ในอีกโลกหนึ่ง ซิด คาเกโน พยายามกำจัดลัทธิชั่วร้ายในจินตนาการที่ดูเหมือนจะมีอยู่จริง พี่น้องสตรีผู้บูชาซิดเพราะเข้าใจผิดว่าเขาเป็นเงา ร่วมกันทำลายสิ่งชั่วร้ายในโลก

STORY อนิเมะ ชีวิตไม่ต้องเด่นขอแค่เป็นเทพในเงา

อนิเมะ ชีวิตไม่ต้องเด่นขอแค่เป็นเทพในเงา คือนิยายอีกเรื่องที่เกิดในต่างโลกซึ่งจะได้รับฉบับอนิเมะในปี 2021
ตัวเอกเป็นพวกคลั่งไคล้ตัวละครที่แอบทำงานในเงามืดไม่ว่าจะเป็นการปกป้องโลกหรืออะไรก็ตาม โดยไม่ทำหน้าหนักใจ
เพราะมันเย็น เขาอุทิศชีวิตของเขาเพื่อให้ได้มาซึ่งพลังสูงสุด และดับไฟก่อนที่ความฝันจะเป็นจริง เด็กหนุ่มได้เกิดใหม่เป็น Sid Caguero และพบว่าในโลกใหม่มีสิ่งที่เรียกว่าพลังวิเศษ คราวนี้ความฝันของเขาจะเป็นจริง เขาทุ่มเทให้กับศิลปะการป้องกันตัวที่สร้างสรรค์ขึ้นเอง ในเวลาปกติเขาจะแสดงตัวเป็นนกกระจอกที่ไร้ความสามารถ แต่ในเงามืด เขาคือพระเจ้าอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นไปเพื่อความร่มเย็น จนกระทั่งเมื่ออายุได้ 10 ขวบ ซิดได้เข้าไปในรังของโจรและพบก้อนเนื้อเน่าที่เคยเป็นสิ่งมีชีวิต ซิดสนุกกับสิ่งนั้นและลองใช้เวทมนตร์บางอย่าง เมื่อเสร็จแล้ว ก้อนเนื้อเน่านั้นก็กลับคืนสู่สภาพเดิม เอลฟ์สาวสวยผมสีทอง แม้ว่าซิดจะไม่คิดจะรั้งเธอไว้ แต่เอลฟ์ผมทองคิดแต่จะตอบแทนบุญคุณของซิด ซิดจึงคิดค้นโลก “ลัทธิเดียโบรอส” มีที่มาจากนิทานของโลกนั้น โดยสร้างเรื่องว่า The “Hunting Demon” หรือโรคที่เอลฟ์สาวเป็นนั้นแท้จริงแล้วคือ “คำสาปที่ฮีโร่ในอดีตถูกสาปโดยเทพ Diabolos และที่จริงสามารถรักษาได้ แต่หลักคำสอนถูกปิดกั้นโดยเจตนา เพื่อที่พวกเขาซึ่งเป็นลูกหลานของฮีโร่จะได้รวบรวมพลังของพวกเขาเพื่อโค่นล้มเทพมารที่จะฟื้นคืนชีพในอนาคตอีกครั้ง ท้ายที่สุด ซิดก็แค่เล่นๆ เพื่อพยายามโน้มน้าวให้เอลฟ์เชื่อ และรับเอาความแค้นที่ถูกทำให้อับอายและปล่อยให้ตายมาเป็นแรงผลักดันให้แก้แค้น และมาช่วยตามจุดประสงค์ในการเล่นซิดได้จัดตั้ง “Shadow Garden” หน่วยงานลับที่มีเขาและเอลฟ์ผมทอง “อัลฟ่า” ขึ้นเพื่อกอบกู้โลกด้วยการแสดงวีรกรรมจากเงามืดที่ซิดต้องการ ตั้งแต่ชาติที่แล้วในวันที่ช่วยอัลฟ่านั่นแหล่ะ มันไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องตลก

แถมตอนแรกซิดคิดว่ามีอัลฟ่าคนเดียวให้เล่นด้วย อัลฟ่ารุกรวบสาวๆ ยังมีอีก 7 คนที่ประสบชะตากรรมเดียวกับเธอ เด็กผู้หญิงที่ถูกพาตัวมา ฝึกฝนวิชาของซิดอย่างจริงจัง หลายคนมีพลังและทักษะเหนือมนุษย์ จากนั้นพวกเขาก็ขัดขวางผู้ร้ายจนกระทั่งวันหนึ่งพวกเขาได้ปะทะกับส่วนหนึ่งของนิกาย ความกดดันมีอยู่จริงและจุดประสงค์ขององค์กรยังคงคล้ายกับเรื่องสุ่ม Sid นั้นเป็นผู้คิดค้นโลก!!! จนในที่สุดทั้ง 7 สาวก็ขอแยกตัวไปรวมพล ซิดเข้าใจเรื่องนั้น สงสัยจะแตกแน่ๆ ทุกคนจึงตัดสินใจแยกทางกัน แต่แท้จริงแล้วพวกอัลฟ่าก็ทำอย่างที่พูดจริงๆ และกำลังขยายองค์กรเพื่อล้มล้างลัทธิโดยที่ซิดไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ รู้ตัวอีกทีก็ตั้งบริษัทขายสินค้าจากความรู้ที่ได้รับจากซิดจนร่ำรวย (แต่ซิดยังเป็นขุนนางอนาถาอยู่นะ 55555) แถมในองค์กรยังมีสาวๆ อีกกว่า 100 คน จะบอกว่าใหญ่ขนาดนี้ได้ยังไง!!!

Review

ความโดดเด่นของเรื่องนี้คือสไตล์การเขียน นิยายเรื่องนี้เป็นแนว ACTION COMEDY พูดตามตรง จุดที่ยากที่สุดคือการเขียนความในใจของแต่ละคน “ตัวละครในเรื่องนี้เข้าใจซึ่งกันและกัน ตัวอย่างเช่น ซิดผู้ฝึกฝนอย่างหนักเพื่อที่จะกลายเป็นพลังในเงามืด เขาแข็งแกร่งอย่างไร้มนุษยธรรมจริงๆ เรียกว่าโอเวอร์พาวเวอร์ แต่มันไม่สมบูรณ์แบบ เพราะในใจของ Siddon เขาอยากจะทำเรื่องบ้าๆ เช่น ฝึกวิธีแพ้ 48 แบบต่างๆ และพยายามบังคับให้คู่ต่อสู้ตีตัวเอง จะลุกขึ้นจากการพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อสนองตัวเองโดยไม่คิดว่าคนอื่นจะเข้าใจผิดกันได้อย่างไร แม้แต่ตัวละครหญิงก็เข้าใจว่าซิดไม่เคยยอมแพ้ เพราะเขาตกหลุมรักเธอและพยายามเอาชนะทั้ง ๆ ที่ทักษะยังอ่อน… หรือการแสร้งทำเป็นรู้ความคิดของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเบต้า ฉันไม่เข้าใจหรืออะไร เพียงแต่ว่าผมตามเรื่องไม่ทัน แล้วก็โพล่งออกมาแบบมั่วๆ ซึ่งสาวๆ ที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาดันไปตีความว่าซิดกำลังให้ข้อมูลที่พวกเธอขาดหายไป เรียกว่าฉลาดเป็นบ้า ฉันรู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะเท่ แต่ไม่อยากเท่แบบธรรมดา เท่ยิ่งขึ้นด้วยสไตล์แห่งอำนาจในเงา…

สิ่งหนึ่งที่ทำให้การอ่านสนุกคือการสลับไปยังคำบรรยายของคู่สนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังคิดในบทถัดไป ซึ่งเหมือนเขียนให้คนอ่านบอกว่า ไม่โว้ย บ้า!! ตอนไหนก็ได้ โดยส่วนตัวยอมรับว่าเขียนแนวนี้คนอ่านต้องคิดตามตัวละครตลอด

ในอดีต เมื่อพูดถึงไลท์โนเวลเรื่อง “ต่างโลก” เรามักจะเจอนักเขียนที่ยึดติดกับสไตล์ของ “ตัวเอกคิด ตัวเอกเห็น ตัวเอกแสดง” เพื่อดำเนินเรื่อง ในบางเรื่องตัวเอกเน้นอธิบายสิ่งที่เขาทำมากเกินไป ทำอย่างไรให้อาหารอร่อย นั่นคือ ถ้าผู้เขียนบรรยายเก่ง ก็จะไม่น่าเบื่อ แต่ถ้าคนอ่านไม่อินไปด้วยก็จะเบื่อเอาง่ายๆ แต่สำหรับไอซาวะ ไดสุเกะ คนๆ นี้ดูเหมือนจะเน้นไปที่การอธิบายภาพว่า “ตัวละครได้รับการปฏิบัติอย่างไร” มากกว่าเน้นไปที่ “เราจะโจมตีอย่างไร” ใช่ งานเขียนของไอซาวะสามารถอ่านฉากแอ็คชั่นได้อย่างง่ายดาย ตัวละครคิดในใจเท่านั้น แถมยังมีมุกตัดมุกตบให้เห็นเป็นระยะๆ มีคนนอกตีความว่าเมื่อกี้ตัวเอกไปทำอะไรให้เห็นว่าในมุมมองของชาวโลกนั้นสิ่งที่ทำเกินมนุษย์ไปแล้ว มีคำเปรียบเทียบว่า “เวลาคนธรรมดา สู้กับพระเอก เวลาสู้กับตัวละครเดียวกัน มันต่างกันยังไง” ให้อ่านเสมอ

ฉันได้เห็นจุดที่ดีมากมาย ลองหาจุดแปลกของเรื่องนี้กัน นอกจากเวทย์รักษาและเวทย์เสริมร่างกายแล้ว ไม่ค่อยเห็นตัวละครใช้เวทมนตร์โจมตี ส่วนใหญ่จะเป็นการต่อสู้ด้วยดาบ โดยที่เนื้อเรื่องไม่ได้ใส่รายละเอียดว่าทำไม อีกทั้งส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ต่อสู้กับคน สัตว์ประหลาดนอกจากสไลม์แทบจะมองไม่เห็น อาจจะต้องการมุ่งเน้นไปที่สไตล์นิยายวิทยาศาสตร์ศิลปะการต่อสู้

บทความแนะนำ

👉 จูเซียน กระบี่เทพสั่งหาร อนิเมะ